อาหารเหนือ เมนูเด็ดๆ  ลำแต๊แต๊ อาหารพื้นบ้านภาคเหนือ ที่คุณคุ้นเคย ต้องลองไปทานสักครั้งหนึ่ง

อาหารเหนือ : สวัสดีค่ะ วันนี้มีเมนูเด็ด อาหารของภาคเหนือมานำเสนอ หลายคนก็คงเคยกิน รสชาติของอาหารเหนือจะมีรสชาติกลมกล่อม แถมอร่อยอีก วันนี้เฮาจะพาไปแอ่ว เมืองเหนือ กับอาหาร ลำ ๆ บรรยากาศดีแถมอาหารน่ากินอีกต่างหาก

ว่าแล้ว ถ้าพูดถึงอาหารเหนือหลายคนก็คง พูดถึง แคบหมูกับน้ำพริกหนุ่ม แต่ภาคเหนือ ไม่ได้มีแค่นี้ มีอีกหลายเมนูๆ เสนห์ของอาหารของแต่ล่ะภาคก็แตกต่างกันไป แต่วันนี้ เราจะพาไปดูเมนูเด็ดๆ ของภาคเหนือกัน เลยดีกว่า

ใส้อั่ว

คำว่า อั่ว หมายถึง แทรก หรือยัดไว้ตรงกลาง

ไส้อั่ว จึงหมายถึงไส้ที่มีการนำสิ่งของยัดไว้ การทำไส้อั่ว นิยมใช้ไส้หมูและเนื้อหมู

แกงอังเล

แกงฮังเล มีต้นกำเนิดจากประเทศพม่า โดยคำว่า “ฮิน” ในภาษาพม่าหมายถึง แกง และ “เล” ในภาษาพม่า หมายถึง เนื้อสัตว์ แกงฮังเลได้รับความนิยมจากชาวไทยภาคเหนือและแคว้นสิบสองปันนา

แกงโฮ๊ะ

แกงโฮะ คำว่า “โฮะ” แปลว่า รวม คือการนำเอาอาหารหลายๆ อย่างมารวมกัน

ลาบ(ดิบ)

เป็นการนำเอาเนื้อหมูมาสับให้ละเอียด พร้อมกับเลือดหมู ก้จะได้ลาบเลือด หรอลาบดิบนั้นเอง

แกงผักชะอม

ผักชะอม หรือผักหละ นิยมนำมาแกงกับผักอื่นๆ เช่น แกงหน่อไม้ แกงถั่วฝักยาว แกงแค แกงโฮะ แกงเห็ดหูหนู หรือแกงเฉพาะชะอมอย่างเดียว เรียกแกงผักหละ หรือแกงชะอม แกงผักชะอม หรือแกงผักหละ

แกงผักปั๋ง

น้ำเงี้ยว

น้ำเงี้ยว เป็นอาหารขึ้นชื่อของจังหวัดเชียงราย น้ำเงี้ยวแบบจังหวัดแพร่จะมีสูตรใช้ขาหมูและเอ็นหมู นอกเหนือจากเนื้อหมู สามารถเพิ่มเติมกระดูกไก่และเนื้อไก่ลงไป

ตำขนุน

ตำขนุน หรือ ตำบ่าหนุน เป็นตำรับอาหารที่มีวิธีการปรุง เรียกว่า ตำ คือการนำเอาส่วนผสม คือขนุนอ่อนต้มให้เปื่อย แล้วนำมาโขลกรวมกันเครื่องแกง นำไปผัดกับน้ำมันกระเทียมเจียว ใส่มะเขือเทศ ใส่ใบมะกรูด รับประทานกับกระเทียมเจียว ผักชีต้นหอม และพริกแห้งทอด

จ่อผักกาด

จอผักกาด เป็นตำรับอาหารที่ใช้ผักกาดกวางตุ้งที่กำลังออกดอก หรือเรียกว่า ผักกาดจ้อน หรือผักกาดดอก ซึ่งปรุงด้วย เกลือ กะปิ ปลาร้าหรือกะปิ ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียกหรือมะขามสด ใส่กระดูกหมู

แกงเห็ดเผาะ

เห็ดเผาะ หรือชาวล้านนาเรียกว่า เห็ดถอบ  แกงเห็ดเผาะแสนอร่อยกันด้วยเมนูแกงเห็ดเผาะใบมะขามอ่อน สูตรนี้เด็ดตรงใส่น้ำซุปกระดูกหมูเพิ่มความกลมกล่อม ปรุงรสให้เปรี้ยวเผ็ดตามชอบ

ยำหน่อไม้ใส่น้ำปู

ยำหน่อไม้ นิยมใช้หน่อไม้ไล่ ต้มให้สุกจนมีรสหวาน นำมายำกับเครื่องปรุง นิยมใส่น้ำปู ใบขิงหั่น หรือไพล (ปูเลย) ลงไปด้วย โดยต้ม จากนั้นจึงนำมาคลุกเคล้ากับเครื่องปรุง

แกงอ่อม

แกงอ่อมหมู นิยมใช้เนื้อหมูและเครื่องในหมูเป็นส่วนผสมหลัก บ้างใช้แต่เครื่องใน เรียก แกงอ่อมเครื่องในหมู มีวิธีการแกงเช่นเดียวกับแกงเนื้อสัตว์อื่นๆ แกงอ่อม ถือเป็นอาหารชั้นดีอย่างหนึ่งของชาวล้านนา

นี้เป็นการยกตัวอย่างมาแค่นี้ ที่จริง มีเยอะแยะมากมาย เป็นไงบ้างค่ะ กับอาหารเหนือเห็นแล้ว หิว อาหารเหนือเลยใช่ไหมค่ะ ถ้าได้ไปแถวๆ ภาคเหนือก็ลองไปทานกันได้นะคะ

บทความที่เกี่ยวข้อง คลิ๊ก 

ที่มาของคุกกี้เสี่ยงทายขนมที่มาพร้อมกับดวง

เมื่อพูดถึงคุกกี้เสี่ยงทายตอนนี้ ใครๆก็นึกถึงเนื้อเพลงที่ฮิตติดหูที่ดังทั่วบ้านทั่วเมืองกันมาแล้ว แต่วันนี้เราจะมาเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติคุกกี้นี้กัน ว่าแท้จริงแล้วมันมีต้นกำเนิดมาจากไหน

“Fortune Cookie” มีความหมายว่า “คุกกี้เสี่ยงทาย” (บ้างเรียกว่า “คุกกี้ทำนายดวง”) เป็นขนมที่ทำจากแผ่นแป้งบางๆ รสชาติหวานกรอบคล้ายๆ คุกกี้ รูปร่างคล้ายพระจันทร์เสี้ยว ข้างในจะใส่กระดาษที่เขียนหมายเลขนำโชคบอกคำทำนายเอาไว้ บ้างก็เขียนคำอวยพร หรือคำคมด้วยภาษาจีนเอาไว้ด้วย

จากในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 คุกกี้เสี่ยงทายก็เป็นที่รู้จักกันในชื่อ “เค้กน้ำชาเสี่ยงทาย” จากนั้นในช่วงการกักกันตัวชาวญี่ปุ่นในอเมริกา เรื่องราวคุกกี้เสี่ยงทายก็ถูกส่งต่อไปยังชาวจีนในอเมริกาให้มีโอกาสเผยแพร่คุกกี้เสี่ยงทายให้กว้างขึ้น สมัยก่อนนั้นคุกกี้ที่สอดแทรกกระดาษเสี่ยงทายนี้ล้วนถูกทำด้วยมือ แต่ปัจจุบันได้มีเครื่องจักรสำหรับผลิตคุกกี้เสี่ยงทายแล้ว มันถูกคิดค้นขึ้นโดย Shuck Yee แห่ง California ซึ่งส่งผลให้ปัจจุบันคุกกี้เสี่ยงทายกลายเป็นของหวานที่ขาดไม่ได้หลังทานอาหารในภัตตาคารอาหารจีน

ที่มาของคุกกี้เสี่ยงทายไม่ใช่ขนมไหว้พระจันทร์ และที่แปลกที่สุดก็คือ คุกกี้เสี่ยงทายไม่ได้มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีนและคนจีนเองก็ไม่รู้จักมัน แท้ที่จริงคุกกี้เสี่ยงทายมีต้นกำเนิดมาจากไหนยังไม่ทราบแน่ชัด แต่ผู้คนเริ่มนิยมกันเมื่อต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 โดยเริ่มที่ภัตตาคารจีนแห่งหนึ่งในซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งปรับปรุงมาจากคุกกี้ของชาวญี่ปุ่นจากในปลายศตวรรษที่ 19 คุกกี้ที่ถูกทำขึ้นในประเทศญี่ปุ่นในสมัยนั้นมีลักษณะคล้ายกับคุกกี้เสี่ยงทายที่เราเห็นกันในปัจจุบัน ซึ่งสมัยนั้นในเมืองเกียวโต ก็ได้มีวิธีการเสี่ยงทายโชคชะตาโดยการสุ่มแผ่นกระดาษในวัดของญี่ปุ่น เรียกว่า Omikuji

คุกกี้ของญี่ปุ่นสมัยนั้นแตกต่างจากของจีน ทั้งขนาด สี และส่วนผสม อีกอย่างแผ่นกระดาษเสี่ยงโชคนั้นไม่ได้ถูกสอดไว้ข้างในส่วนโพรงของคุกกี้ แต่กลับถูกเสียบไว้ให้เลยออกมาด้านนอกของคุกกี้ ซึ่งคุกกี้แบบนี้มีชื่อเรียกว่า Tsujiura Senbei

คุกกี้เสี่ยงทายจะถูกนำมาแจกให้ลูกค้าในภัตตาคารอาหารจีน เมื่อจบมื้ออาหารและเรียกเก็บเงิน ขนมคุกกี้เสี่ยงทายจะถูกนำมาแจกให้คุณพร้อมกับใบเสร็จ เสิร์ฟพร้อมกับผลส้มที่ฝานเป็นแผ่นบางๆพร้อมกับน้ำชาในถ้วยใบเล็กๆ เมื่อคุณกัดหรือหักแผ่นคุกกี้ให้แตกออก จะปรากฏแผ่นกระดาษชิ้นเล็กๆ ซ่อนอยู่ภายในข้อความต่างๆ ในนั้น เป็นคำมงคลที่มีความหมายดีๆ หรือเป็นคำคม คำอวยพร และคำทำนายดีๆ ที่เขียนเป็นภาษาจีน พร้อมคำแปลที่เป็นภาษาอังกฤษ คุกกี้เสี่ยงทายโด่งดังเป็นที่รู้จักกันไปทั่วโลกและนิยมกันมากในร้านอาหารจีนของสหรัฐอเมริกา

ทั้งหมดนี้ก็มาจากไอเดียที่ทำขึ้นโดยชาวอเมริกันทั้งนั้น คำทำนาย คำคมหรือคำอวยพรที่เขียนด้วยภาษาจีน ก็มาจากการคิดสร้างสรรค์ของชาวอเมริกันที่เลือกหยิบคำที่มีความหมายดีๆ มาใช้

http://gookguu.com/

http://krumamkids.com/

กินพริก ลดน้ำหนัก ได้อย่างไร ?

สมุนไพรธรรมชาติที่มีรสเผ็ดจัดจ้านอย่างพริก กินเผ็ดลดน้ำหนักได้อย่างไร ถูกนำมาใช้ประโยชน์ทั้งทางยาและนำมาปรุงเป็นอาหารไทยได้หลากหลายเมนู ซึ่งในปัจจุบันเริ่มมีสารสกัดจากพริกที่อ้างว่าสามารถลดน้ำหนักได้ จากการกินสารสกัดจากพริก ถูกผลิตออกมาในรูปแบบของอาหารเสริมหลากหลายรูปแบบ มาดูกันว่าพริกจะมีส่วนมาช่วยในด้านใดของร่างกายที่จะทำให้หุ่นผอมสวยเช๊งได้เท่าคำโฆษณา

พริกชนิดต่าง ๆ มีต้นกำเนิดมาจากทวีปอเมริกา ซึ่งในปัจจุบันนี้ได้มีปลูกกันในหลายประเทศทั่วโลก เพราะพริกเป็นเครื่องเทศที่สำคัญชื่อหนึ่ง และยังมีคุณสมบัติเป็นยาสมุนไพรด้วยเช่นกัน มีส่วนช่วยขยายเส้นโลหิตในลำไส้และกระเพาะอาหารเพื่อให้ดูดซึมอาหารดีขึ้น ช่วยร่างกายขับถ่าย ของเสียและนำธาตุอาหารไปยังเนื้อเยื่อของร่างกาย สำหรับพริกขี้หนูสดและพริกชี้ฟ้าของไทย มีปริมาณวิตามิน ซี 87.0 – 90 มิลลิกรัม / 100 g นอกจากนี้พริกยังมีสารเบต้า-แคโรทีนหรือวิตามินเอสูง

ในพริกมีอะไรที่ช่วยลดความอ้วน ?

พริกทุกชนิดจะมีวิตามินซี สามารถช่วยขยายเส้นเลือดในลำไส้และกระเพาะอาหาร ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น และมีส่วนช่วยในเรื่องของระบบขับถ่าย มีวิตามินเอซึ่งช่วยสร้างภูมิต้านทาน ทำให้กระดูกและฟันของแข็งแรง ผิวหน้าและปัญหาจุดด่างดำดีขึ้น

นอกจากนี้ยังมีสาร Capsaicin และ Oleoresin และกรด Ascorbic acid ซึ่งสาร Ascorbic acid นี่เองที่มีบทบาทสำคัญในการลดความอ้วน เพราะว่ามันสามารถช่วยให้ไขมันถูกเผาผลาญกลายเป็นพลังงานได้ดี สาร Capsaicin เป็นสารในพริกที่ให้รสเผ็ดร้อน ดังนั้นจึงมีผู้นำพริก หรือสารสกัดจากพริกมาใช้เป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อลดน้ำหนัก โดยมักจะกล่าวว่า Capsaicin ในพริกช่วยเพิ่มการเผาผลาญอาหารและลดความอยากอาหาร

พริกลดความอ้วนได้อย่างไร ?

เมื่อกินพริกหรือสารสกัดจากพริกไปแล้ว ร่างกายจะได้รับกรด Ascorbic acid ทำให้ร่างกายสามารถนำไขมันไปเผาผลาญเป็นพลังงานได้ดีขึ้น ควบคู่ไปกับการควบคุมอาหาร เพื่อให้ร่างกายได้รับพลังงานจากอาหารน้อยกว่าที่ต้องใช้ในแต่ละวัน โดยมีพริกเป็นตัวเสริมช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมัน ทำให้ลดน้ำหนักได้อย่างธรรมชาติ สรุปคือพริกจะทำให้ร่างกายสร้างกรดไขมันน้อยลง ปรับปรุงเมตาบอลิซึ่มและยังส่งผลให้ระงับความหิวอีกด้วย

กินพริกประมาณเท่าไรถึงจะลดความอ้วนได้ ?

การกินพริกในแต่ละวันจากมื้ออาหารนั้น หากต้องการเห็นผลในการลดความอ้วน คงต้องกินพริกจำนวนมากกว่าจะได้สารสกัดจากพริกในปริมาณที่พอเหมาะ ดังนั้นหากเราต้องการลดความอ้วนด้วยพริกจริงๆ ควรจะทานพริกในรูปแบบของสารสกัดจะดีกว่า  เพื่อที่จะได้ปริมาณที่เพียงพอต่อร่างกาย

แม้ว่าในปัจจุบันยังไม่มีการระบุเป็นรายงานที่รับรองว่า เราต้องกินพริกหรือสารสกัดจากพริกในปริมาณเท่าไรต่อวันถึงจะมีผลต่อการลดความอ้วน แต่เมื่อเรากินพริกในระดับที่พอเหมาะ กระเพาะอาหารและลำไส้จะดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น ทำให้เรารู้สึกอิ่มได้เร็วและนานขึ้น ทำให้ปัญหากินมาก กินจุกจิกแล้วอ้วน ลดน้อยลงในที่สุดแต่ก็มีข้อควรระวัง หากเรากินพริกหรือสารสกัดจากพริกในปริมาณที่มากเกินไป อาจจะเกิดผลเสียทำให้ปวดท้อง หรือท้องเสียได้ และความเผ็ดที่จะมีผลต่อการลดความอ้วนต้องมีปริมาณความเผ็ดเยอะพอสมควร หากไม่เผ็ดจะไม่ช่วยลดความอ้วนเท่าไรนัก

นอกจากพริกแล้วก็ยังมีเครื่องเทศอื่นๆอีกมากมายที่มีรสชาติเผ็ดร้อนเหมือนพริก เช่น เม็ดมัสตาร์ด ขมิ้น กระวาน ยี่หร่า ขิง อบเชย เป็นต้น ซึ่งช่วยในเรื่องของการลดน้ำหนักด้วยเช่นกัน

ที่มา www.wecandiet.com

https://th.wikipedia.org

อะโวคาโด อาหารสุขภาพ

ออเจ้าทั้งหลายอย่าตกเทรน! มารับสูตร ” หมูโสร่ง ” (อาหารว่างไทยโบราณ) เอาไปทำไว้มัดใจคุณพี่กันเถอะเจ้าค่ะ

อิชั้นทนกระแส ละครบุพเพสันนิวาส  ไม่ไหวจริงๆ เจ้าค่ะ.จึงต้องรีบหาสูตร หมูโสร่ง ที่เป็นของว่างมาแต่โบราณ ชื่อก็ไม่คุ้นหู แต่พอได้ยินจากในละครก็ถึงกับต้องร้องอ้อ.เหมือนว่าชาติที่แล้วเคยได้ยินมา ^^ เป็นอาหารว่างที่หน้าตาน่ารับประทานและรสชาติยังอร่อยอีกด้วย

บทความอื่นๆ ผังตัวละครบุพเพสันนิวาส   ทรงผม คุณหญิงนิ่ม ทำไมต้องมีปอยผม

เปิดตัว.. ช็อคโกแลต ชนิดที่สี่ สีชมพูรสหวานอมเปรี้ยว

หลายๆ คนต้องเคยทาน ช็อคโกแลต ชนิดต่างๆ กันมาหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ดาร์ก มิลค์ หรือไวท์ช็อคโกแลต ซึ่งก็เป็นสิ่งที่เราคุ้นเคยกันดีกับรสชาติของแต่ละชนิดที่มีความแตกต่างกันออกไป แต่เชื่อว่าหลายคนยังไม่เคยลิ้มลองรสชาติของช็อคโกแลตชนิดที่สี่นี้เป็นแน่ จะเป็นอย่างไร ไปดูกัน…

ผ่านมา 80 ปี หลังจากการเปิดตัวไวท์ช็อคโกแลตในช่วงปี 1930  โดยบริษัทเนสท์เล่ (Nestlé) ช็อคโกแลตชนิดที่สามต่อจากดาร์กช็อคโกแลตและมิลค์ช็อคโกแลต ล่าสุดบริษัท Barry Callebaut ผู้นำด้านช็อคโกแลตและโกโก้จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ กล่าวว่า ได้พบช็อคโกแลตชนิดที่สี่แล้วจากหน่วยวิจัยในฝรั่งเศสและเบลเยี่ยม โดยตั้งชื่อว่า “Ruby Chocolate”

ช็อคโกแลตชนิดนี้จะมีสีชมพู โดย Barry Callebaut ใช้เวลาถึง 13 ปี ในการสรรหาวิธีการสกัดช็อคโกแลตจากเมล็ดโกโก้สีทับทิมนี้ หรือที่เรียกว่า Ruby Cocoa โกโก้ชนิดนี้ขยายพันธุ์อยู่หลายพื้นที่ในโลก สามารถพบได้มากที่เอกวาดอร์ บราซิล รวมทั้งไอวอรีโคสต์ ซึ่ง Barry Callebaut คือบริษัทเจ้าแรกในโลกที่นำเมล็ด Ruby Cocoa มาทำเป็นช็อคโกแลตได้สำเร็จ ส่วนรสชาติและสีของช็อคโกแลตชนิดใหม่นี้มีรสหวานอมเปรี้ยว มีความคล้ายผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ โดยที่ไม่มีการเพิ่มเบอร์รี่เข้าไป ทั้งหมดเกิดจากการสกัดเมล็ดโกโก้ล้วนๆ

Bas Smit หัวหน้าฝ่ายการตลาดของบริษัท Barry Callebaut ได้กล่าวว่า “ถึงแม้ว่าเมล็ดโกโก้ทับทิม อาจพบได้ในส่วนต่างๆ ของโลก แต่ Barry Callebaut เป็นบริษัทเดียวที่สามารถเปลี่ยนให้เป็นแท่งช็อคโกแลตโดยผ่านกระบวนการที่ซับซ้อน”

“Ruby Chocolate” ได้รับการทดสอบและผ่านการตรวจสอบจากการวิจัยผู้บริโภคอย่างกว้างขวางซึ่งดำเนินการโดยหน่วยงานวิจัยอิสระระดับโลก Haystack และ Ipsos ในสหราชอาณาจักรสหรัฐอเมริกา จีน และญี่ปุ่น

Peter Boone หัวหน้าฝ่ายนวัตกรรมและคุณภาพของบริษัท Barry Callebaut กล่าวว่า “Barry Callebaut ได้สร้างชื่อเสียงให้กับตนเองในฐานะผู้บุกเบิกและผู้ริเริ่มด้านช็อคโกแลตและโกโก้ทั่วโลก จากการวิจัยผู้บริโภคในตลาดที่แตกต่างกัน  ยืนยันว่าช็อคโกแลตทับทิมไม่เพียงตอบสนองความต้องการของผู้บริโภครายใหม่ที่เป็นกลุ่มคนรักช็อคโกแลตเท่านั้น แต่รวมไปถึงผู้บริโภคคนอื่นๆด้วยที่มีความตั้งใจซื้อสูง แม้ในราคาที่แตกต่างกัน เรากำลังรอคอยที่จะได้ร่วมงานกับพันธมิตรของเราในการแนะนำนวัตกรรมใหม่นี้สู่ตลาดและการสร้างช็อคโกแลตสีทับทิมนี้ เป็นสินค้าใหม่สำหรับผู้ผลิตช็อคโกแลตและผู้บริโภคทั่วโลกในฐานะที่เป็นช็อคโกแลตชนิดที่สี่ถัดจาก ดาร์กช็อกโกแลต มิลค์ช็อกโกแลตและไวท์ช็อกโกแลต”

“Ruby Chocolate”ถูกเปิดเผยในงานเปิดตัวสุดพิเศษในเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีนเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2560 ที่ผ่าน เพราะที่นี่มีโรงงานผลิตช็อคโกแลตของบริษัท Barry Callebaut ตั้งอยู่ และคาดว่าช็อคโกแลตสีทับทิมจะถูกนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ประเภทต่างๆ เหมือนช็อคโกแลตชนิดอื่นๆ

KITKAT ประเทศญี่ปุ่นเป็นแบรนด์แรกของโลกที่เปิดตัวช็อกโกแลตทับทิมชื่อว่า ‘KITKAT Chocolatory Sublimeb Ruby’ และจำหน่ายเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2561 ที่ผ่านมา ในร้าน KITKAT Chocolatory  ในญี่ปุ่นและเกาหลีใต้รวมทั้งออนไลน์ ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายช็อกโกแลต KITKAT แบบพรีเมียมที่สร้างขึ้นด้วยความใส่ใจอย่างพิถีพิถันต่อส่วนผสมและวิธีการเตรียมอาหารภายใต้การดูแลของ Yasumasa Takagi และเป็นเจ้าแรกที่เสนอช็อคโกแลตชนิดที่สี่นี้ให้กับผู้บริโภคเพียงแค่ 5 เดือนหลังจาก Ruby  Chocolate ถูกคิดค้นสำเร็จ

เริ่มผลิตมาวางจำหน่ายกันแล้ว อีกหน่อยก็คงจะบินมาไทยให้เราได้ลองชิมกันบ้าง หรือใครอยากลองจนรอไม่ไหวก็ลองหาซื้อได้จากช็อปออนไลน์ของทาง KITKAT กันได้นะคะ

ที่มา www.barry-callebaut.com

www.barry-callebaut.com

อะโวคาโด อาหารสุขภาพแนว ๆ สุดฮิตที่นิยมกัน เป็นผลไม้ลดน้ำหนักชั้นเลิศ ?

สวัสดีจ้า  วันนี้มาพบกลับผลไม้ขึ้นชื่อของ “การลดน้ำหนัก” อย่างอะโวคาโดหลายคนอาจไม่รู้จักว่ามันคืออะไร  วันนี้เราจะมานำเสนอ กันว่าอะโวคาโดที่นิยมกัน สามารถทำอะไรได้บ้าง ?  ก่อนอื่นที่เราจะเข้าเรื่อง เรามาทำความรู้จักเรื่อง

อะโวคาโดสักเล็กน้อยกันก่อน  ว่า คืออะไร ?  ทำไมถึงเป็นผลไม้ลดน้ำหนักได้  ?

ขอบคุณภาพจาก : www.pinterest.com

ช่วงนี้ชี้แนะ

อะโวคาโด(avocado) คือ เป็นผลไม้ที่มีเนื้อมันเป็นเนย ส่วนมากบ้านเราจะเรียก ว่าลูกเนย เพราะเนื้อข้างในมันๆ เหมือนเนย  เปลือกบาง เนื้อมีตั้งแต่เหลืองอ่อนจนถึงเหลืองเข้ม รสมัน เนื้อละเอียด ไม่มีกลิ่น มีเมล็ดเดียว มีรกหุ้มเมล็ด

ทำไมถึงเป็นผลไม้ลดน้ำหนักได้

–  เพราะว่า กรดไขมันที่อยู่ในเนื้อของอะโวคาโด ช่วยลดปริมาณ LDL-cholesterol ซึ่งเป็นคอเลสเตอรอลที่เป็นผลเสียต่อร่างกายและเพิ่มปริมาณ HDL-cholesterol ในเลือดซึ่งเป็นคอเลสเตอรอลที่เป็นผลดีต่อร่างกาย

อะโวคาโดกินดิบไม่ได้ ต้องรอให้สุกก่อนถึงจะกินได้

มาถึง ตอนนี้  นอกจากอะโวคาโดจะเป็นผลไม้แล้ว ยังทำอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพได้อีก เรามาดูกันว่ามีอะไรบ้าง

1. แซลมอนกับซอสอะโวคาโดครีม

เป็นใช้ปลาแซลมอนผสมผสานกับซอสครีมอโวคาโด  เป็นการนำเอาปลาแซลมอนไปอบให้ดูเกี้ยม แล้วก็นำอะโวคาโดไปปั่นพร้อมกับ โหระพาและมะนาวให้ไดครีมซอส แล้วราดซอสลงไปที่เนื้อปลาแซลมอน ก็จะได้รสชาติอย่างลง จากนั้นก็ตกแต่งจานตามใจเรา

ขอบคุณภาพจาก : https://www.pinterest.com/pin/554646510351442647/

2.ครีมมะพร้าวและไอศกรีมอะโวคาโด

สูตรในการทำก็เหมือนการทำไอศรีมกะทิบ้านเราแต่แค่เปลี่ยนจากกะทิเป็น อะโวคาโอ ให้เหมาะสำหรับช่วงหน้าร้อนของฤดูร้อน  พอทั้ง2 อย่างมาผสมผสานก็จะได้รสชาติอย่างลงตัวหรือใครที่ชอบถั่วอาจจะใส่ลงไปด้วยก็ได้

ขอบคุณภาพจาก : https://www.pinterest.com/pin/419257046544174270/

3.แคร็กซอสแซลมอนไข่ยัดอะโวคาโด

เป็นการนำปลาแซลมอนมาผสมกับซอสแคร๊ก ด้วยการทำเป็นใส้ในอะโวคาโดด้วยมีไข่วางไว้บนหน้า แล้วนำไปอบให้ไข่สุกพอประมาณ เพื่อสุขภาพสำหรับอาหารเช้าหรือขนมขบเคี้ยวก็ได้

ขอบคุณภาพจาก : https://www.pinterest.com/pin/479070479095215766/

4.สมูทตี้อะโวคาโด

เป็นอีกหนึ่งเมนูเครื่องดื่มที่นิยมรับประทานได้ง่ายๆ โดยการนำอะโวคาโดไปปั่นและใส่เกลือก็ได้เมนูสมูทตี้ได้ง่ายๆ และเต็มไปด้วยไขมันที่ไม่อิ่มตัว สุขภาพวิตามินและเกลือแร่ และเป็นที่นิยมของสาวๆ

ขอบคุณภาพจาก : https://www.pinterest.com/pin/348254983666177501/

5.พาสต้าก๋วยเตี๋ยวอะโวคาโด

เป็นเมนูที่แปลกใหม่ ด้วยการนำเอาอะโวคาโด ไปทำเป็นเส้นพาสต้า แต่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำ แต่ยังง่ายต่อการปรุงอาหารและเป็นวัตถุดิบทดแทนพาสต้าในก๋วยเตี๋ยวอีกด้วย ด้วยการนำไข่มาเล่นสีสันบนจาน ให้ยิ่งดูน่ากิน

ขอบคุณภาพจาก : https://www.pinterest.com/pin/20125529563686786/

6.มินิอะโวคาโด

มินิอโวคาโดและสูตร Quesadilla Hummus เป็นขนมเพื่อสุขภาพ โดยการนำเอาแผ่นแป้งวงกลม มาเป็นฐานรอง ต่อจากนั้น นำอะโวคาโดและซอสครีมมาวางจากนั้นก็พับแผ่นแป้ง และนำเข้าตู้อบ สักพักรอแป้งเหลืองกรอบ  ก็นำออกมา เป็นการผสมผสานกัน เราก็จะได้ ขนมกินเล่นเพื่อสุขภาพ

ขอบคุณภาพจาก : www.pinterest.com

 เป็นไงกันบ้างสำหรับ เมนู อะโวคาโดที่มานำเสนอ หิวกันใช่ไหม  อะโวคาโดมีประโยชน์อีกมากมาย แถมยัง มีสุภาพดีด้วยนะค่ะ

ย้ำ อะโวคาโดกินดิบไม่ได้นะค่ะ  และอย่าทานเกินวันละ 1 ลูก  และอย่าทานมากเกินไป 

คลิ๊กอ่านต่อเลย