ถึงแม้ว่าในปัจจุบันเรากำลังเดินทางมาถึงจุดที่ทุกคนอ่านหนังสือหรือศึกษาค้นคว้าในสิ่งที่ตนเองต้องการผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ตบนโลกออนไลน์กันเป็นจำนวนมาก แต่เชื่อว่าที่บ้านของใครหลายคนจะต้องมีหนังสือที่เคยซื้อทิ้งไว้กองกระจัดกระจายอยู่ทั่วบริเวณอย่างมากแน่นอน ซึ่งดูแล้วอาจจะไม่เป็นระเบียบและเป็นที่เป็นทางมากเท่าไหร่นัก อีกทั้งยังทำให้บ้านดูรกและทำให้การหาหนังสือที่ต้องการในแต่ละครั้งใช้เวลานานมากยิ่งขึ้น ดังนั้นจะดีกว่าไหมหากวันนี้เราจะมาแบ่งปัน 3 ดีไซน์ที่วางหนังสือสุดสร้างสรรค์สำหรับทุกคนโดยเฉพาะคนชอบอ่าน เพื่อให้สามารถหาหนังสือที่ต้องการได้ง่ายมากขึ้น และทำให้บ้านของคุณมีมุมที่เก๋ไม่เหมือนใคร ซึ่งจะมีดีไซน์และไอเดียแบบไหนอะไรบ้าง ตามไปดูกันได้เลย

ดีไซน์ที่ 1 : ที่วางหนังสือใต้บันได 

มาเริ่มกันที่ดีไซน์แรกด้วยการใช้พื้นที่ใต้บันไดของบ้านให้กลายเป็นที่วางหนังสือสุดคูลกันดีกว่า เพราะจะปล่อยให้พื้นที่นี้ว่างเปล่าก็ดูจะน่าเสียดายไม่ใช่น้อย เนื่องจากการใช้ประโยชน์พื้นที่ใต้บันไดสามารถทำได้อย่างคุ้มค่า อีกทั้งยังสามารถ ทำได้อย่างง่ายๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอนเท่านั้น โดยเริ่มจากการวัดพื้นที่ทั้งหมดว่ามีความกว้างและความยาวมากเพียงใด เพื่อจะได้รู้ว่าปริมาณของจำนวนไม้อัดที่ต้องการใช้ทั้งหมดอยู่ที่เท่าไหร่และทำให้การคาดเดาปริมาณทำได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น หลังจากนั้นให้นำไม้อัดที่ได้มาประกอบเข้าด้วยกันเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมในขนาดที่ต้องการ และนำไปติดเข้ากับผนังใต้บันไดได้เลย ซึ่งไอเดียนี้นอกจากจะช่วยประหยัดพื้นที่ภายในบ้านแล้ว ยังทำให้การวางหนังสือเป็นระเบียบมากยิ่งขึ้นอีกด้วย 

ดีไซน์ที่ 2: ที่วางหนังสือโซฟา 

การออกแบบที่วางหนังสือโซฟาถือว่าเป็นไอเดียที่สามารถเอาใจนักอ่านได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว เพราะนอกจากผู้อ่านจะสามารถเลือกหนังสือที่ต้องการอ่านได้อย่างสะดวกแล้ว ยังทำให้การอ่านหนังสือที่ชื่นชอบไม่ขาดตอนและสามารถหยิบเล่มต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่ต้องลุกขึ้นไปหยิบให้เสียเวลาแต่อย่างใด ซึ่งวิธีในการทำก็ง่ายๆ มาก เพียงนำไม้อัดมาประกอบเข้ากับโซฟา แล้วนำหนังสือลงไปซ่อนตามขอบของโซฟาเพียงเท่านี้ก็ได้ที่วางหนังสือสุดเก๋ที่มีหน้าตาไม่เหมือนใครแล้ว เรียกได้ว่าเป็นการใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่าและสะดวกสบายในการหยิบได้มากขึ้นเยอะเลยทีเดียว

ดีไซน์ที่ 3: ที่วางหนังสือติดผนังรูปดอกไม้ 

มาปิดท้ายกันด้วยการเปลี่ยนผนังบ้านธรรมดาๆ ให้กลายเป็นที่วางหนังสือติดผนังรูปดอกไม้กันดีกว่า เพราะนอกจากจะทำให้บรรยากาศภายในบ้านดูมีชีวิตชีวามากขึ้น ยังสามารถสร้างสรรค์พื้นที่อันว่างเปล่าให้เกิดประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่าและสะอาดตาเป็นระเบียบมากยิ่งขึ้นอีกเช่นกัน โดยการนำไม้อัดมาประกอบเป็นทรงสี่เหลี่ยมแล้วนำไปติดกับผนังเรียงกันให้เป็นรูปดอกไม้ที่มีความสวยงามอย่างแปลกตาตามที่ตนเองต้องการ

เห็นไหมว่าเราสามารถสร้างสรรค์ที่วางหนังสือในรูปแบบต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย หากใครกำลังมองหาที่วางหนังสือสักอันก็ลองใช้พื้นที่ภายในบ้านในมุมต่างๆ ดูก่อน เพราะเราสามารถเปลี่ยนมุมธรรมดาๆ ให้กลายเป็นชั้นวางหนังสือที่มีประโยชน์และน่าสนใจได้ไม่ยาก

ถ้าหากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหาตัวช่วยที่จะทำให้บ้านดูโปร่ง โล่ง ไม่อึดอัด ต้องมาทางนี้! ถึงแม้ว่าจะดูเกริ่นเวอร์ไปสักนิด แต่เราก็ต้องบอกว่าสิ่งที่เรากำลังจะบอกต่อไปนั้น เป็นหนึ่งในตัวช่วยที่จะทำให้บ้านดูโปร่งตามที่เราอยากได้มากขึ้นด้วย นั่นคือ “หลังคาโปร่งแสง” นั่นเอง หลังคาโปร่งแสง เป็นหนึ่งในสิ่งที่จะช่วยให้บ้านของคุณดูสดใสและมีชีวิตชีวามากขึ้น เพราะการเปิดช่องแสงให้ลอดเข้ามาในบ้านนั้น จะทำให้บ้านไม่ดูทึบและไม่อึดอัดกว่าเดิม ซึ่งหลังคาโปร่งแสงนั้นช่วยเปิดช่องแสงให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาในบ้านได้อย่างง่ายดาย แต่ในปัจจุบันนี้ ก็มีหลังคาให้เลือกหลายแบบด้วยกัน ทั้งหลังคาแบบใส หลังคาโปร่งแสง และหลังคาทึบแสง ซึ่งหลังคาทั้งสามแบบนี้นั้นมีความแตกต่างกัน ทั้งในด้านการที่ให้แสงส่องเข้ามาในพื้นที่ภายในบ้าน และมีวิธีเลือกให้เหมาะกับพื้นที่อย่างไรบ้าง

หลังคาแบบใสและหลังคาโปร่งแสง จะเป็นหลังคาที่แสงสามารถส่องผ่านได้อย่างดี แต่หลังคาใสจะเป็นหลังคาที่สามารถมองออกไปด้านนอกได้อย่างชัดเจน แสงสามารถส่องเข้ามาในพื้นที่นั้นได้อย่างดี ส่วนหลังคาโปร่งแสงนั้นจะเป็นหลังคาที่มีความขุ่นมากกว่าหลังคาแบบใส แสงสามารถส่องเข้ามาภายในพื้นที่ได้ไม่กี่เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ซึ่งปริมาณแสงที่สามารถส่องเข้ามาได้นั้นจะขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ในการผลิตเป็นหลัก 

หลังคาทึบแสง คือหลังคาที่ทำมาจากวัสดุทึบแสง จะไม่มีแสงแดดส่องผ่านหลังคานั้นเข้ามายังพื้นที่ภายในบริเวณนั้นๆ ได้ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าความร้อนจะไม่เข้ามาอยู่ภายใต้บริเวณนั้นได้ เพราะแม้ว่าแดดจะไม่ผ่านเข้ามา แต่ความร้อนยังคงลงมาในบริเวณนั้นได้อย่างแน่นอน

เลือกใช้แบบไหนให้เหมาะกับความต้องการ

แม้ประเภทของหลังคานั้นจะมีให้เลือกหลากหลาย แต่สิ่งที่เราควรจะคำนึงถึงก่อนที่จะเลือกติดตั้งนั้นคือประเภทของการใช้งาน เพราะในแต่ละจุด แต่ละการใช้งานนั้น ก็มีสิ่งที่จะต้องพิจารณาแตกต่างกัน รวมไปถึงสไตล์ของการตกแต่งบ้านอีกด้วย 

บริเวณเหนือประตูหรือหน้าต่าง โดยมากมักจะขึ้นอยู่กับทิศทางของการติดตั้ง ถ้าติดตั้งทางทิศตะวันตก ควรเลือกหลังคาทึบแสง เพราะเมื่อแดดส่องในช่วงบ่าย แสงแดดนั้นจะได้ไม่ส่องลงมาในบริเวณนั้น แต่ถ้าอยู่ทางทิศเหนือหรือทิศตะวันออก อาจเลือกหลังคาโปร่งแสงในการติดตั้งเพื่อกันฝนและรับแดดในช่วงเช้า

บริเวณพื้นที่โรงจอดรถ ห้องครัว ห้องเก็บของ ลานซักล้าง หรือพื้นที่พักผ่อน ส่วนมากจะขึ้นอยู่กับทิศทางของการติดตั้ง และการใช้สอย บางครั้งอาจจะเลือกรับเฉพาะแสงธรรมชาติ ก็อาจจะติดหลังคาโปร่งแสงก็ได้ แต่ถ้าจะติดไว้ที่ห้องครัว อาจจะต้องเลือกหลังคาโปร่งแสงและหลังคาทึบแสงเป็นหลัก เพื่อป้องกันไม่ให้แดดส่องถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ได้

บางครั้งเราอาจจะเลือกให้ตรงกับความชอบและสไตล์ส่วนตัวในการตกแต่งบ้านก็ได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งโครงหลังคาเพื่อเพิ่มความสวยงามให้กับบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการติดหลังคาแบบเรียบที่จะเข้ากับบ้านโมเดิร์น แม้กระทั่งการติดโครงไม้ระแนงเพื่อเพิ่มความสวยงามและเล่นลูกเล่นให้กับบ้านอีกด้วย

บทความอื่นๆ : 10 ที่พักน่าทึ่งที่จะทำให้ยอดไลก์อินสตาแกรมของคุณพุ่งปรี๊ด

สงกรานต์ คืออะไร

สงกรานต์ คือ การเคลื่อนที่ของพระอาทิตย์จากราศีนึงไปอีกราศีนึง จะเกิดขึ้นในทุกๆเดือนเรียกกันว่า สงกรานต์เดือน ซึ่งการนับเดือนทางสุริยคตินั้นได้กำหนดไว้ว่าเมื่อใดก็ตามที่พระอาทิตย์เคลื่อนออกจากราศีมีนเข้าสู่ราศีเมษ กำหนดให้เป็นวัน มหาสงกรานต์ จะตรงกับวันที่ 13, 14, 15 เมษายน ของทุกปีและให้เป็นวันหยุดสำหรับวันสงกรานต์ โดยให้ความหมายของวันสงกรานต์ไว้ ดังนี้

วันที่ 13 เมษายน 2562

• เป็นวันมหาสงกรานต์ คือ วันที่โลกโคจรเป็นมุมตั้งฉากกับพระอาทิตย์จึงมีกลางวัน กลางคืนเท่ากันพระอาทิตย์ต้องขึ้นสู่ราศีเมษ

วันที่ 14 เมษายน 2562

• เป็นวันเนา คือ วันที่พระอาทิตย์อยู่ประจำคงอยู่ที่ 0 องศา เพื่อตั้งต้นเข้าสู่ราศีใหม่

วันที่ 15 เมษายน 2562

• เป็นวันเถลิงศก คือ วันเปลี่ยนจุลศักราชใหม่

วันที่ 16 เมษายน 2562

• เป็นวันหยุดชดเชยวันสงกรานต์

วันขึ้นปีใหม่ของไทย

วันขึ้นปีใหม่ของไทย จากการคำนวณทางดาราศาสตร์ คือวันที่ดวงอาทิตย์เคลื่อนเข้าสู่ราศีเมษ เป็นวันปีใหม่ไทย จะตกอยู่วันที่ 13 หรือ 14 เมษายน แต่ปัจจุบันระบุแน่นอนว่า 13 ถึง 15 เมษายน เนื่องจากสมัยก่อนกำหนดให้ แรม 1 ค่ำเดือน 5 นับตามปฏิทินจันทรคติ ซึ่งจะใช้การเกิดข้างขึ้นข้างแรมของดวงจันทร์เป็นตัวบอกเดือนแต่อย่างไรก็ตามปฏิทินจันทรคติมีความคลาดเคลื่อนอยู่มาก จนกระทั่ง ปี พ.ศ. 2432 รัชกาลที่ 5 ได้เปลี่ยนมาใช้วันที่ 1 เมษายน เป็นวันปีใหม่ยึดตามหลักปฏิทินสุริยคติซึ่งมีความสอดคล้องกับฤดูกาลความยาวนานของปีโดยเฉลี่ยมีค่าใกล้เคียงกับปีฤดูกาล โดยส่วนของปฏิทินจันทรคติจะใช้ในการอ้างอิงวันสำคัญทางศาสนาหรือประเพณีต่างๆแทน เมื่อเข้าสู่ ปี พ.ศ. 2483 จอมพล ป. พิบูล สงคราม ได้ประกาศเปลี่ยนแปลงวันขึ้นปีใหม่ของไทยเป็น วันที่ 1 มกราคม โดยให้ใช้ปฏิทินเกรโกเรียนเพื่อให้ตรงกับปฎิทินสากล และยังคงวันสงกรานต์ให้เป็นวันปีใหม่ของไทยดังเดิม

ปฏิทินจันทรคติ

ปฏิทินสุริยคติ

ปฏิทินเกรโกเรียน

เทศกาลสงกรานต์

เทศกาลสงกรานต์ประเพณีการเล่นสาดน้ำในช่วงฤดูร้อนช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นเพิ่มความสนุกสนานคลายร้อนและยังมีประเพณีสำคัญที่ถูกส่งต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่นตามคตินิยมโบราณคือการสรงน้ำพระและผู้อาวุโสอันเป็นการแสดงความเคารพและความกตัญญู โดยกิจกรรมต่างๆในวันสงกรานต์จะทำกันเป็นครอบครัวซึ่งกิจกรรมที่นิยมทำกันตามธรรมเนียมไทย คือ

1. ทำบุญตักบาตร
   คือ การสร้างบุญสร้างกุศลให้ตัวเองเป็นศิริมงคลในวันขึ้นปีใหม่ไทย และยังอุทิศส่วนกุศลนั้นให้กับญาติผู้ล่วงลับไปแล้วได้อีกด้วย

2. รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่
   คือ การรดน้ำขอขมาผู้ใหญ่ และขอพรจากท่านเพื่อเป็นสิริมงคลในวันขึ้นปีใหม่ไทย

3. สรงน้ำพระ
   คือ การทำความสะอาดหิ้งพระและทำความสะอวดพระพุธรูปด้วยผ้าใหม่รดน้ำผสมด้วยน้ำอบใส่พวงมาลัย รดน้ำพระพุทธรูปทั้งที่บ้านและที่วัด ขอขมาและขอพรเป็นสิริมงคล

6. ทำบุญปล่อยนกปล่อยปลา
   คือ การต่อชีวิตสัตว์มีความเชื่อว่าการให้ชีวิตสัตว์เป็นทานได้รอดชีวิตอยู่ต่อได้เป็นการทำบุญที่มีอานิสงส์อย่างมาก
7. ก่อเจดีย์ทราย
   คือ การก่อเจดีย์ทรายเป็นที่นิยมมากโดยการขนทรายเข้าวัด เนื่องจากมีความเชื่อว่าตลอดทั้งปีที่เราเข้าวัดดินทรายจากวัดจะติดเท้าเราออกจากวัดนั้นเป็นบาปก่อให้เกิดประเพณีขนทรายเข้าวัด ก่อเจดีย์ทรายประดับด้วยดอกไม้ต่างๆ นาๆ เป็นการขอขมา
8. บังสุกุล อัฐิ
   คือ การนิมนต์พระไปบังสุกุลกระดูกเป็นการบำเพ็ญกุศลอุทิศให้บรรพบุรุษผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว

Cr : wikipedia

สงกรานต์เที่ยวไหนดี ?

กาแฟ ที่คุณดื่มทุกวันยังมี 30 ข้อเท็จจริงที่คุณอาจจะยังไม่เคยรู้ !!

กาแฟ ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกในศตวรรษที่ 15 และจนถึงทุกวันนี้กาแฟนี้ยังคงเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งโดยมีผู้ชื่นชอบกาแฟนับล้านทั่วโลก กาแฟทำมาจากผลเบอร์รี่สุกที่ผ่านการคัดสรรแล้วแปรรูปและอบแห้ง เมื่อแห้งแล้วถั่วเหล่านี้จะถูกคั่วและบดให้เป็นเครื่องดื่มกาแฟที่เราทุกคนรู้จักและชื่นชอบ ตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมากาแฟเติบโตขึ้นเป็นอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์และกลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีการดำเนินชีวิตของเรา แต่คุณทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเครื่องดื่มที่คุณรักมากแค่ไหน? ลองดูรายชื่อด้านล่างเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมและแชร์สิ่งที่คุณได้เรียนรู้หรือรู้มาแล้วในความคิดเห็น!

1.มีแมวที่ได้รับ Guinness World สำหรับแมวที่อายุยืนที่สุดเป็นแมวตัวเมียอายุ 38 ปีชื่อ Creme Puff  เจ้าของเผยเจ้าแมวของเขาดื่มกาแฟทุกเช้าทั้งชีวิต

 

2. แม้กาแฟจะมีคาเฟอีนที่เป็นตัวกระตุ้นในการปัสสาะ แต่กาแฟทำให้คุณสูญเสียน้ำได้น้อย เพราะกาแฟไม่สามารถแยกน้ำออกมาได้

3.มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ต้องการรู้สถานะของหม้อกาแฟ ทำให้พวกเขาจึงคิดค้นเว็บแคมตัวแรกที่มีจุดประสงค์เพียงอย่างเดียวในการตรวจสอบสถานะของหม้อกาแฟ

4. จริงๆแล้วกาแฟเป็น ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ไม่ใช่ถั่ว

5 .เชื่อกันว่ากาแฟถูกค้นพบโดยแพะ herder สังเกตเห็นว่าแพะจะมีพลังมากหลังจากกินผลเบอร์รี่บางอย่าง

6.คาปูชิโน่ได้รับการตั้งชื่อตามคาปูชินเพราะมีสีคล้ายกับชุดคลุมของคาปูชิน

7. กาแฟส่วนใหญ่ผลิตในบราซิล ผลิตกาแฟได้ 40% ของโลก

8.การดื่มกาแฟอย่างสม่ำเสมออาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพเช่นลดความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยเช่นโรคมะเร็งโรคหัวใจและโรคอัลไซเมอร์

9.กาแฟสองประเภทคือ Robusta และ Arabica กาแฟโรบัสต้ามีรสเปรี้ยวและเป็นกรดมากขึ้นด้วยระดับคาเฟอีนที่สูงขึ้น อาราบิก้าเป็นที่รู้จักจากรสชาติที่ละเอียดอ่อนและความเป็นกรดต่ำ 

10.ก่อนที่ผู้คนได้เรียนรู้วิธีการชงกาแฟ ชนเผ่าแอฟริกาตะวันออกผสมผลเบอร์รี่กับไขมันจากสัตว์ และบริโภคเป็นอาหาร

11.ฟินแลนด์กินกาแฟมากที่สุดในโลก

12. นักวิทยาศาสตร์ได้เปลี่ยนประสบความสำเร็จในการผลิตกาแฟบดเป็นไบโอดีเซล ดังนั้นกาแฟวันหนึ่งอาจเติมเชื้อเพลิงในรถของคุณ

13. ทั่วโลกคนบริโภคประมาณ 2.25 พันล้านถ้วยกาแฟทุกวัน

14. ก่อนที่กาแฟจะกลายเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางแล้วเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมคือเบียร์ 15. ในปีพ. ศ. 2475 บราซิลไม่มีเงินทุนเพียงพอที่จะส่งนักกีฬาไปแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ดังนั้นนักกีฬาจึงต้องรับเงินด้วยการขายกาแฟ

16.การศึกษาพบว่าการดื่มกาแฟอาจช่วยลดความเสี่ยงจากภาวะซึมเศร้าได้

17.การศึกษาพบว่าการดื่มกาแฟอาจช่วยลดความเสี่ยงจากภาวะซึมเศร้าได้

18.อายุเฉลี่ยของบาริสต้าในอิตาลีอยู่ที่ 48 ปี

19.กาแฟมีประสิทธิภาพมากที่สุดถ้าคุณดื่มระหว่าง 9:30 น. ถึง 11:30 น.

20. กาแฟที่แพงที่สุดในโลกคือ Black Ivory Coffee สามารถเสียค่าใช้จ่ายได้ถึง 1,100 เหรียญต่อกิโลกรัม กาแฟชนิดนี้ผลิตจากเชอร์รี่ที่ถูกย่อยสลายโดยช้าง

21. กาแฟคั่วเข้มและกาแฟคั่วเบา มีจำนวนคาเฟอีนที่ไม่ต่างกันมาก

22. Decaf ไม่ใช่กาแฟที่ปราศจากคาเฟอีน 100% แต่มีกระบวนการกำจัดคาเฟอีน94-98% จากการศึกษาพบว่า กาแฟปกติขนาด16 ออนซ์ มีคาเฟอีน 188 ml. ส่วน Decaf ขนาด 16 ออนซ์ มีคาเฟอีนเฉลี่ย 9.4%

23. ประมาณ 54% ของชาวอเมริกันที่มีอายุเกิน 18 ปีดื่มกาแฟทุกวัน

24. ในถ้วยกาแฟมีปริมาณคาเฟอีนมากกว่ากาแฟเอสเพรสโซ่

25. เกาหลีเหนือเป็นประเทศที่มีการผลิตกาแฟเย็นที่สุด มีถ้วยกาแฟ Americano แบบเย็นถ้วยใหญ่ขนาด 14,228.1 ลิตร

26. ประมาณ 80 ถึง 100 ถ้วยกาแฟ จะเป็นปริมาณที่ทำให้ตายได้สำหรับผู้ใหญ่โดยเฉลี่ย

27. โดยเฉลี่ยชาวอเมริกันใช้เวลาประมาณ 20 เหรียญต่อสัปดาห์สำหรับกาแฟซึ่งเท่ากับ 1.092 เหรียญต่อปี

28. ชาวอเมริกันใช้ 400 ล้านถ้วยต่อวัน

29. เพียงแค่กลิ่นของกาแฟเท่านั้นที่สามารถช่วยปลุกคุณได้ในตอนเช้า

30.คำว่า ‘กาแฟ’ มาจากคำภาษาอาหรับ ‘qahwah’ ซึ่งหมายถึงประเภทของไวน์

 

เครดิต Andželika

บทความอื่นๆ โอรีโอ้รสใหม่